ทฤษฎี “เหาฉลาม” หรือ Shark-Remora Theory เป็นแนวคิดที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะกับ บริษัทจ้างเหมาแรงงาน ที่ต้องการหาลูกค้าและสร้างความเติบโต
แนวคิดของทฤษฎีเหาฉลาม (Shark-Remora Theory)
ต้นแบบจากธรรมชาติ “ฉลาม” เป็นสัตว์ใหญ่ที่ทรงพลัง เปรียบได้กับ องค์กรขนาดใหญ่ หรือ ธุรกิจที่มีศักยภาพสูง
“เหา” (Remora) เป็นปลาขนาดเล็กที่เกาะฉลามเพื่อกินเศษอาหาร ไม่เป็นภัยต่อกัน และ อยู่รอดได้เพราะเกาะอยู่กับสิ่งที่ใหญ่กว่า
บทเรียนเชิงกลยุทธ์
ธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจเฉพาะทางสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วโดยการ “เกาะ” หรือสร้างความร่วมมือกับองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งมีฐานลูกค้า ความน่าเชื่อถือ หรือทรัพยากรมากกว่า
การประยุกต์ทฤษฎีเหาฉลามกับบริษัทจ้างเหมาแรงงาน
- จับคู่กับ “ฉลาม” ที่ใช่
มองหา องค์กรขนาดใหญ่ ที่มีความต้องการแรงงานต่อเนื่อง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, บริษัทโลจิสติกส์, ศูนย์กระจายสินค้า หรือผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ เข้าไปเสนอเป็น “พันธมิตรด้านแรงงาน” ไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการธรรมดา
- สร้างคุณค่าให้ “ฉลาม” อยากให้เหาเกาะ
แสดงว่าเราช่วยให้บริษัทใหญ่นั้น ลดต้นทุนแรงงาน, ลดปัญหาการลาออก, เพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน
นำเสนอข้อมูล เช่น “อัตราเปลี่ยนตัวแรงงานต่ำกว่าเกณฑ์อุตสาหกรรม 30%” หรือ “สามารถส่งแรงงานภายใน 48 ชม.”
- พัฒนา Relationship อย่างเป็นระบบ อย่าเพียง “เกาะ” ให้ฉลามไปไหน เราก็ไปด้วย
เสนอแพลตฟอร์มหรือบริการเสริม เช่น ระบบจัดตารางแรงงาน, ระบบสื่อสารแรงงาน-หัวหน้างาน หรือแม้แต่ระบบความปลอดภัย (ESG) กลายเป็น “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์” (Strategic Partner) แทนการเป็น “ผู้รับจ้าง”
- เกาะกลุ่ม Supply Chain หากเข้าไม่ได้ถึงบริษัทใหญ่โดยตรง อาจ “เกาะ” ผู้รับเหมาช่วงในเครือ หรือซัพพลายเออร์ที่ต้องใช้แรงงานก็ได้ เช่น ร่วมมือกับบริษัทรับเหมางานก่อสร้าง เพื่อจัดหาแรงงานช่างเทคนิค ช่างเชื่อม ฯลฯ
- เพิ่มการมองเห็นผ่าน “ฉลาม”ขอ Testimonial หรือกรณีศึกษาเพื่อใช้ โปรโมตแบรนด์ ใช้ชื่อบริษัทลูกค้าขนาดใหญ่ในการยืนยันคุณภาพและความน่าเชื่อถือ